ใครเคยได้ยิน “กลิ่นสาบคนแก่” บ้าง? แต่บ้านไหนที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี แต่คนที่ไม่ได้อาศัยกับผู้สูงอายุล่ะ อาจสงสัยว่ากลิ่นคนแก่เป็นยังไง กลิ่นสาบคนแก่เหมือนกับกลิ่นตัวหรือเปล่า ตามมาดูข้อมูลต่อไปนี้กันเลยดีกว่า
กลิ่นคนแก่ (Aging odor) ไม่ได้เกิดจากความสกปรก แต่เป็นกลิ่นตัวพิเศษของผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงในร่างกายเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ และแต่ละคนจะมีกลิ่นที่แตกต่างกันไป
กลิ่นคนแก่ กลิ่นยังไงกันนะ
กลิ่นคนแก่ เป็นกลิ่นอ่อน ๆ ที่จะว่าเหม็นก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่หอม โดยกลิ่นแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไป กลิ่นคนแก่จะมีลักษณะคล้ายกับกลิ่นของหนังสือเก่า เทียนไข แว๊กซ์ และกลิ่นอับเชื้อรา ผสมผสานเข้าด้วยกัน
กลิ่นคนแก่เกิดจากอะไร
กลิ่นคนแก่เกิดจากระบบการทำงานของต่อมเหงื่อและต่อมไขมันในร่างกาย ลดลง ทำให้มีการผลิตเหงื่อและกรดไขมัน ลิพิด เปอร์ออกไซด์ (Lipid peroxid) ออกมามากขึ้น ทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียจนทำให้เกิดสาร Nonenal ตัวการที่ปล่อยกลิ่นแก่ออกมา ยิ่งอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะมีกลิ่นนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเจ้าสาร Nonenal มีคุณสมบัติไม่ละลายน้ำ และไม่ละลายในไขมัน การอาบน้ำจึงไม่สามารถขจัดกลิ่นแก่ให้หายไปได้ เพราะกลิ่นสาบคนแก่เกิดขึ้นจากกลไกธรรมชาติของร่างกาย ไม่ได้เกิดจากความสกปรก หรือการไม่อาบน้ำ และแน่นอน กลิ่นคนแก่ที่ติดเสื้อผ้า และเครื่องนุ่งห่มที่ใช้เป็นประจำ ก็มักจะทำความสะอาดขจัดกลิ่นได้ยากเช่นกัน
กลิ่นคนแก่มีตอนอายุเท่าไร
กลิ่นคนแก่ หรือ กลิ่นผู้สูงอายุ มักจะพบได้ตั้งแต่ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และยิ่งอายุมากขึ้น กลิ่นก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ใช่ว่ากลิ่นคนแก่จะไม่เกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุน้อย เพราะบางคนที่อายุยังไม่ถึง 40 ปี สามารถมีกลิ่นคนสาบคนแก่ได้เข่นกัน โดยสาเหตุอาจมาจากพฤติกรรมยางอย่าง และปัจจัยทางร่างกาย ทำให้เกิดกลิ่นสาบคล้ายกลิ่นคนแก่ได้ เช่น
- การไม่รักษาความสะอาด ไม่ค่อยอาบน้ำ หรือพฤติกรรมทางสุขอนามัยส่วนบุคคล
- สวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ เสื้อผ้าไม่สะอาด ทำให้เกิดการดูดซับกลิ่นและสะสมจนมีกลิ่นสาบคล้ายคนแก่ได้
- การทานยาหรืออาหารบางชนิดเป็นประจำ เช่น กระเทียม หัวหอม หรืออาหารที่มีกลิ่นแรงอื่น ๆ จนทำให้มีกลิ่นตัวคล้ายกับกลิ่นคนแก่
- แบคทีเรียบนผิวหนังบางชนิด ก็สามารถก่อให้เกิดกลิ่นคนแก่ได้
- โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสารเคมีในร่างกาย จนเกิดกลิ่นตัวที่คล้ายกับกลิ่นคนแก่
กลิ่นตัวคนแก่แก้ยังไง
กลิ่นผู้สูงอายุมักมีสาเหตุมาจากกลไกธรรมชาติของร่างกาย เมื่อเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัย จนทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่งผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้ขาดความมั่นใจ และอาจเพิ่มภาระแก่บุตรหลานที่ทำหน้าที่ดูแล แต่ก็มีวิธีแก้กลิ่นคนแก่และป้องกันได้แต่เนิ่น ๆ ดังนี้
- ออกกำลังกาย เพื่อให้ต่อมเหงื่อขยาย ช่วยระบายเหงื่อและขับของเสียออกไป ลดสาเหตุของการสะสมเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนผิวหนัง
- เช็ดเหงื่อบ่อย ๆ หรือทำให้เหงื่อออกน้อยที่สุด เพื่อลดการทำปฏิกิริยาระหว่างเหงื่อ ไขมัน และแบคทีเรีย ช่วยตัดต้นตอของการเกิดกลิ่นคนแก่
- อาบน้ำร้อน การอาบน้ำร้อน หรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ จะช่วยขยายรูขุมขน ขับเหงื่อและชะล้างสิ่งสกปรกให้ไหลออกไปพร้อมกับน้ำ
- ลดหรืองดการทานเนื้อสัตว์และอาหารที่มีไขมันสูงทุกประเภท เพราะไขมันรวมไปถึงไขมันในเนื้อสัตว์ จะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ก่อให้เกิดกลิ่นคนแก่
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารที่เหมาะสมกับวัยที่มากขึ้น
- งดสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ เพิ่มสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ส่งผลเสียต่อระบบการไหลเวียนเลือด เสื่อมประสิทธิภาพ ทำงานได้แย่ลง จนเกิดการสะสมของเสียในร่างกาย ทำให้ต่อมผิวหนังต้องขับออกมามากกว่าปกติ กลายเป็นกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นคนแก่
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นคนแก่ หรือการลดกลิ่นแก่ นอกจากการรักษาความสะอาด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่เป็นต้นเหตุของการเกิดกลิ่น ปัจจุบันมีตัวช่วยอื่น ๆ ให้เลือกใช้ อย่างผลิตภัณฑ์ช่วยลดกลิ่นคนแก่ เช่น สบู่ดับกลิ่นคนแก่ ครีมอาบน้ำหรือสบู่ดับกลิ่นตัวผู้สูงอายุ หรือ ผลิตภัณฑ์ช่วยลดเหงื่อในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีจำหน่าย สามารถหาซื้อได้สะดวกมากขึ้น ส่วนกลิ่นคนแก่ติดเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว อย่าง เสิ้อผ้า ผ้าขนหนู ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หรือ ปลอกหมอน ก็มีผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับขจัดกลิ่นสาบคนแก่โดยเฉพาะจำหน่ายเช่นกัน โดยสามารถหาซื้อได้ทางร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และช้อปปิ้งออนไลน์ได้ไม่ยาก หรือจะลองใช้วิธีขจัดกลิ่นคนแก่ติดเสื้อผ้า ด้วยการใช้ผงซักฟอกผสมน้ำส้มสายชู ละลายในน้ำอุ่น แล้วนำผ้าไปแช่ไว้ประมาณ 30 นาที แล้วซักตามปกติ อาจช่วยได้เช่นกัน